อย่างที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ภาษาอังกฤษนั้นสำคัญมาก ๆ หลาย ๆ คนใช้ภาษานี้เป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันไปแล้ว และเพื่อให้น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง บทความนี้ เลยขอเขียนเกี่ยวกับเทคนิคฝึกภาษาอังกฤษส่วนตัวที่ใช้อยู่ และช่วยพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษแบบก้าวกระโดดเลยครับ
เทคนิคที่ผมใช้ก็คือ "การเขียนไดอารี่" ครับ เพียงแต่เปลี่ยนจากการใช้ภาษาไทย เป็นภาษาอังกฤษแทน... หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะรู้สึกว่า "เราทำไม่ได้" หรือ "มันยากอ่ะ" ผมยอมรับเลยนะครับ ครั้งแรกที่ตั้งใจจะเขียนไดอารี่ เป็นภาษาอังกฤษนั้น ผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
ในตอนนั้นเอง ผมก็เกือบจะไม่เริ่มแล้วครับ เพราะคิดว่าภาษาอังกฤษของเรามันไม่ได้เรื่อง แต่.... พอคิดดูให้ดี ๆ แล้ว ต่อมาผมเปลี่ยนใจและลองเขียนครับ สิ่งที่ผมคิดได้นั้น สรุปเป็นข้อ ๆ ตามนี้เลย
3 เหตุผลข้างต้น ผมใช้เป็นเหตุผลที่ทำให้เริ่มเขียน และขอเล่าประสบการณ์จริงนิดนึง ไดอารี่ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษวันแรกนั้น... ยาวววววมากครับ... เขียนเป็นเรียงความ เล่นเอาตัวเอง "งง" ไปเลยครับ คิดไม่ถึงว่าเราเขียนได้ขนาดนี้
และต่อมา หลังจากเขียนยาว ๆ มาสัก 2-3 วัน ผมก็เริ่มขี้เกียจและเขียนสั้นลงเรื่อย ๆ จากวันละ 20 - 30 ประโยค มาเลยแค่ 1-2 ประโยค แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวคือ เราเริ่มคิดประโยคไวขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ต่อมาหลังจากเขียนมาได้สัก 3-4 เดือน ผมก็รู้สึกตัวเองว่า เราเขียนไดอารี่ทุกวัน และมีแต่ประโยคเดิม ๆ ผมเลยมีการปรับกลยุทธ์ในการเขียนใหม่ ตามนี้
จากกลยุทธ์ข้างต้น สุดท้ายปัจจุบันทำให้ผมนั้น ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ในการจดโน๊ตส่วนตัวในทุกเรื่องไปแล้ว.... ยอมรับว่า "งง" กับตัวเอง แต่สาเหตุหลักคือ ภาษาอังกฤษมันกระซับและสั้นกว่าภาษาไทย ครับ
ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ผมกินข้าวกับเพื่อนเมื่อวานนี้ กับ I ate with friends yesterday.
ลองนับดูครับว่า การพิมพ์ภาษาไทยใช้เวลาพิมพ์เยอะกว่า ภาษาอังกฤษเยอะ... และด้วยรูปประโยคภาษาอังกฤษมันอธิบายความหมายลึกซึ้งกว่า
ลองสังเกตคำว่า "เพื่อน" ครับ ภาษาไทยนั้น "เพื่อน" มันอาจไม่ถึงเพื่อนคนเดียวหรือหลายคนก็ได้ แต่ภาษาอังกฤษ "friends" มันชัดเจนเลยว่า เพื่อนมีหลายคน โดยไม่ต้องอธิบายเพิ่มแบบภาษาไทย
ก่อนจบบทความ ผมขอแนะนำแอปสำหรับเขียนไดอารี่นี้ครับ Journey
แอปนี้สามารถติดตั้งได้ทุกเครื่องและทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น Windows, Mac, Android และ iOS ครับ และราคาก็ไม่แพงด้วย ตัวแอปสามารถแสดงแผนที่เพื่อโชว์ได้ด้วยว่า เรามีเขียนไดอารี่ที่ไหนบ้าง เหมาะมากเวลาไปเที่ยวแล้วเราจะกลับมาดูทีหลังว่า เราเคยไปที่นี่หรือยังครับ
สุดท้ายนี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ที่ต้องการจะฝึกภาษาอังกฤษกันนะครับ